วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2559

"ฝ้า" ปัญหาใหญ่ บ่อนทำลายผิวสวย


ฝ้า คืออะไร
               ฝ้า (Moles) คือ ผิวหนังที่มีลักษณะเป็นผื่นสีดำอมน้ำตาล เกิดขึ้นบนใบหน้าบริเวณโหนกแก้ม หน้าผาก คาง และเหนือคิ้วทั้ง 2 ข้าง ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของเซลล์สร้างเม็ดสีที่ผลิตเม็ดสี (Melanin) ออกสู่ผิวหนังไม่สม่ำเสมอ บริเวณที่มีเม็ดสีมากจึงมีสีผิวเข้มกว่า จะทวีความเข้มขึ้นเรื่อย ๆ หากไม่ได้รับการดูแลปกป้องที่ดีพอ

ฝ้ามีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด คือ
1. ฝ้าชนิดลึก จะอยู่ในชั้นหนังแท้ มีลักษณะเป็นสีม่วงๆ อมน้ำเงิน ขอบเขตไม่ชัด รักษาได้ยากกว่าฝ้าชนิดตื้น และไม่ค่อยหายขาด การใช้ยาทาฝ้าอ่อนๆ และครีมกันแดด เพียงแต่ช่วยให้ดีขึ้นเท่านั้น
2. ฝ้าชนิดตื้น จะอยู่ในชั้นหนังกำพร้า มีลักษณะเป็นสีน้ำตาล ขอบเขตชัดเจน เกิดขึ้นง่าย และสามารถรักษาให้หายได้เร็ว นอกจากนี้ ฝ้าชนิดนี้ยังรักษาได้โดยการใช้ยาทาฝ้าอ่อนๆ และครีมกันแดดก็สามารถลบเลือนให้หายได้

สาเหตุของการเกิดฝ้า 
               สาเหตุของการเกิดฝ้า เกิดจากสารสีเข้มเพิ่มจำนวนมากขึ้น สามารถแบ่งเป็นสองสาเหตุหลักๆคือเกิดจากภายในและจากภายนอก สาเหตุจากภายนอกนั้นรวมทั้งแสงอัลตร้าไวโอเลตหรือปัญหาของเครื่องสำอาง แต่ภายในมักเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนหรือสภาพจิตใจ

     (1) แสงอัลตร้าไวโอเลต
               เมื่อแสงแดดส่องถูกผิว เซลล์สารสีเข้มที่อยู่ในชั้นพื้นฐานจะสร้างสารสีเข้มเมื่อได้รับการกระตุ้นจากแสงอัลตร้าไวโอเลต สาเหตุเพราะพยายามไม่ให้แสงส่องไปถึงชั้นผิวแท้ ไปกระทบต่อโครงสร้างภายในผิว เริ่มแรกสารสีเข้มจะเกิดที่ส่วนในของผิวชั้นนอก และจะค่อยๆผลักออกมาถึงด้านนอกและกลายเป็นสีดำ แล้วจะกลายเป็นขี้ไคลหลุดลอกไป แต่ถ้าหากว่าไม่ได้ทำการปกป้องผิวให้ดี สารสีเข้มไม่สามารถขับออกมาอย่างราบลื่น สารสีเข้มบางส่วนที่ตกค้างอยู่จะกลายเป็นฝ้าสีดำ การใช้เครื่องสำอางคุณภาพต่ำหรือใช้สารบำรุงที่ไม่เหมาะสม และได้รับการกระตุ้นจากแสงแดดหรือทางฟิสิกส์ ทำให้สารหอม สารตะกั่ว สารปรอทที่มีปริมาณมากเกินไปในผลิตภัณฑ์ตกตะกอนอยู่ในผิว

     (2) ระบบฮอร์โมนเสียสมดุล
               ในร่างกายของคนเรามีฮอร์โมนหลายสิบชนิดที่ทำหน้าที่ควบคุมความสมดุลภายในร่างกาย ฉะนั้นถ้ามีฮอร์โมนชนิดใดชนิดหนึ่งขับเคลื่อนไม่เพียงพอหรือมากเกินไป ก็จะทำให้สภาพร่างกายเสียสมดุล เป็นที่เข้าใจหันว่าฝ้ามักจะขึ้นกับสุภาพสตรีมากกว่าสุภาพบุรุษ เหตุผลเพราะว่าฮอร์โมนเพศหญิงสามารถกระตุ้นเซลล์สารสีเข้มเพิ่มการตกตะกอนของสารสีเข้ม แต่ฮอร์โมนเพศชายไม่ทำให้สารสีเข้มตกตะกอนเพิ่มมากขึ้น ช่วงวัยทองและระยะตั้งครรภ์มักจะเกิดฝ้า เนื่องจากฮอร์โมนเสียสมดุล สุภาพสตรีที่ตั้งครรภ์ส่วนใหญ่หลังจากคลอดบุตรแล้วฝ้าก็จะหายไปเอง แต่สภาพสตรีในวัยทองเนื่องจากระบบการผลัดเปลี่ยนเซลล์เสื่อมถอย ผิวจะเข้าสู่วัยเสื่อมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่สามารถขจัดสารสีเข้มหลุดออกเซลล์ชั้นกำพร้าจึงกลายเป็นฝ้าดำ การรับประทานยาคุมกำเนิดก็เป็นอีกเหตุหนึ่งที่ทำให้เป็นฝ้า แต่ส่วนใหญ่เมื่อหยุดรับประทานฝ้าก็จะหายไปเอง

     (3) ความเครียดและไม่สบายใจ
               เมื่อจิตใจมีความเครียดจะทำให้ต่อมใต้สมองสร้างสารกระตุ้นเซลล์สีเข้ม (MSH) เมื่อสารกระตุ้นฮอร์โมนตัวนี้ขับออกมาผิดปรกติ เซลล์สารสีเข้มมีความไวต่อการกระตุ้นมาก ฉะนั้นถ้าหากมีสภาพจิตใจความเครียด กระวนกระวายหรือมีความกังวลก็จะสะท้อนออกมาอยู่บนผิวหนัง

วิธีดูแลรักษา และป้องกัน 
(1) หลีกเลี่ยงการตากแดดโดยตรง ออกไปนอกบ้านควรกางร่มหรือสวมหมวก เพื่อลดโอกาสการเกิดฝ้าหรือเพิ่มปริมาณ ของฝ้า
(2) เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงเพื่อความขาวเนียนที่อ่อนโยน ให้การบำรุง ชุ่มชื้นที่มีคุณภาพสูง อย่าใช้เครื่องสำอางคุณภาพต่ำ ซึ่งอาจปนเปื้อนสารตะกั่ว สารปรอทอย่างเด็ดขาด
(3) ใช้ผลิตภัณฑ์กันฝุ่นกันแดดที่สามารถให้การปกป้องผิวได้
(4) หลีกเลี่ยงการใช้ยาบางประเภทเกินขนาดเป็นประจำ (โดยเฉพาะยาคุมกำเนิดบางจำพวก)
(5) รักษาสภาพจิตใจและร่างกายที่ร่าเริงแจ่มใส นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
(6) รับประทานผักผลไม้ที่มีวิตามินให้มาก
(7) ออกกำลังกายที่พอเหมาะเพื่อกระตุ้นการผลัดเปลี่ยนเซลล์ใหม่ให้มีชีวิตชีวา
(8) คงความเป็นปรกติของกลไกของภายในร่างกายในการขับถ่ายของเสีย



แอดเราเป็นเพื่อน เพื่อติดตามผ่านช่องทางอื่นๆได้ที่นี่เลยค่ะ
 LINE ID : @chlitina-th

สาระความรู้และความงามน่าสนใจแบบนี้  แชร์แบ่งปันให้เพื่อนรู้บ้างสิ แชร์เลย!!!
Share: Line

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น