1. ผิวธรรมดา (Normal Skin)
ผิวธรรมดาจะมีความเรียบเนียน กระชับ ยืดหยุ่น และมีรูขุมขนที่ละเอียด เมื่ออากาศร้อนผิวจะไม่มันเยิ้ม และไม่แห้งเป็นขุยเมื่อต้องอยู่ในที่เย็นๆ เพราะมีสมดุลแห่งกลไกการขับไขมันผิว
การดูแลรักษาผิวธรรมดานั้นก็ทำได้ง่ายๆ โดยการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้นเป็นประจำ และทำความสะอาดผิวหน้าด้วยโฟมที่มีค่า pH 5.5 และทาครีมกันแดดทุกครั้งที่ต้องออกจากบ้านในเวลากลางวัน
2.ผิวแห้ง (Dried Skin)
เป็นผิวที่มีความเรียบเนียน รูขุมขนเล็ก กระชับ ไม่ค่อยจะมีปัญหาเรื่องสิว แต่มักจะมีปัญหาเรื่องริ้วรอยมากกว่าผิวประเภทอื่น เพราะผิวมักขาดความชุ่มชื้น จนอาจลอกและเป็นขุยในบางครั้งที่ต้องอยู่ในที่ๆ มีอากาศเย็นนาน
การดูแลผิวแห้ง ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์เข้มข้น และควรเป็นเนื้อครีม เพราะนอกจากจะช่วยคืนความชุ่มชื่นให้กับผิวแล้ว ยังช่วยรักษาสมดุลแห่งน้ำหล่อเลี้ยงผิวได้ดีอีกด้วย ส่วนการทำความสะอาดควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่มีค่า pH ใกล้เคียงกับสภาพผิวคือ 5.5 และต้องสัมผัสผิวหน้าอย่างเบามือ
3. ผิวมัน (Oily Skin)
ผิวมันจะลักษณะรูขุมขนผิวกว้าง ไม่เรียบเนียน มักมีปัญหาเรื่องสิวง่ายกว่าผิวประเภทอื่นๆ ผิวหน้ามักจะมีความมันตลอดเวลา เพราะมีการขับไขมันผิวออกมามากกว่าปกติ
ผู้ที่มีผิวมันจึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน หรือสารให้ความชุ่มชื่นมากนัก และควรเป็นประเภทเนื้อบางเบา ซึมซาบง่าย เช่น เนื้อโลชั่น หรือเนื้อเซรั่ม เป็นต้น เพราะโดยปกติแล้ว ผิวมันที่สามารถผลิตสารให้ความชุ่มชื่นตามธรรมชาติ (Sebum) ได้ดีอยู่แล้ว ส่วนการทำความสะอาดผิวมัน ควรล้างหน้าอย่างน้อยวันละ 2- 3 ครั้ง เพื่อช่วยขจัดความมันส่วนเกิน และป้องกันการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย อันเป็นสาเหตุแห่งการเกิดสิว
4. ผิวบอบบาง (Sensitive Skin)
ส่วนใหญ่แล้วมันพบในผู้ที่มีผิวแห้ง และผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ ลักษณะสำคัญคือ ชั้นผิวจะบางจนสามารถมองเห็นเส้นเลือดได้ มักเกิดการแพ้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวได้บ่อยๆ อาการที่พบคือ ผื่นแดงบวม คัน สิวผด รอยไหม้ หรือรอยด่าง ดังนั้น จึงต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ โดยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติ อ่อนโยนและไม่ระคายเคืองผิว ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง และยังต้องสามารถช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้กลับมาแข็งแรงได้อีกด้วย
5. ผิวผสม (Combination Skin or Mixed Skin)
ผิวผสม จะมีลักษณะสำคัญของผิวหลากหลายประเภทผสมกัน มีทั้งบริเวณที่แห้ง และมัน บริเวณหน้าผาก จมูกและคาง หรือทีโซน จะมีการผลิตไขมันผิว (Sebum) ออกมามากกว่าบริเวณอื่นๆ ของใบหน้า จึงทำให้บริเวณเหล่านั้นมีโอกาสเกิดสิวได้ง่าย ในขณะเดียวกัน ผิวบริเวณรอบดวงตา ข้างแก้ม หรือยูโซน ก็มักจะแห้ง หรือลอกเป็นขุยบ้าง เมื่อต้องสัมผัสกับอากาศเย็นนานๆ
การดูแลรักษาผิวผสม ต้องอาศัยการผสมผสานระหว่างรูปแบบการดูแลผิวแห้งเข้ากับผิวมัน ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ควรเป็นสูตรอ่อนโยน เพราะการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ออกฤทธิ์รุนแรง ที่มักมากับผลิตภัณฑ์เพื่อผิวมันกับใบหน้า มักจะทำให้ผิวผสมที่มีลักษณะของผิวสองประเภทมีสภาพแย่ลงไปอีก โดยเฉพาะบริเวณส่วนที่มีผิวแห้ง อาจเกิดความหยาบกร้าน และรอยแดง มิหนำซ้ำการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกฤทธิ์แรงๆ ยังอาจทำให้ผิวที่มันๆ บริเวณทีโซนไม่ดีขึ้น เหมือนเป็นการไปกวนให้ต่อมผลิตไขมันมากขึ้น
แอดเราเป็นเพื่อน เพื่อติดตามผ่านช่องทางอื่นๆได้ที่นี่เลยค่ะ
สาระความรู้และความงามน่าสนใจแบบนี้ แชร์แบ่งปันให้เพื่อนรู้บ้างสิ แชร์เลย!!!
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น